เทคนิคเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย

4 เทคนิคเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้ร่างกาย



1.กินอาหารดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

เมื่อเรากินอาหารเข้าไป ร่างกายจะต้องใช้พลังงาน 10 % สำหรับการย่อยอาหาร ดังนั้น

ยิ่งกินก็จะยิ่งช่วยเผาผลาญได้ แต่ทั้งนี้ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ และหลีกเลี่ยงอาหารประเภทน้ำตาลและอาหารที่มีไขมันสูง ควรไปเน้นทานผักให้มากขึ้น เพราะไฟเบอร์ในผักจะที่ช่วยให้อิ่มเร็ว แคลอรี่ไม่สูง แถมมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย โดยควบคู่กับการทานโปรตีน พวกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว หรือเต้าหู้ จะทำให้อิ่มนาน ไม่หิวบ่อย และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น

ดังนั้น คนที่ชอบลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร กินน้อยๆ ช่วงแรกมักทำให้น้ำหนักลดลงจริง แต่ถ้าทำแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ระบบร่างกายจะปรับการเผาผลาญให้ต่ำลง สูญเสียกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ระบบเผาผลาญพัง กินนิดหน่อยก็กลับมาอ้วนได้ง่าย


สัดส่วนอาหารใน 1 จาน ผัก 30 % โปรตีน 25 % แป้ง 35 % ไขมัน 10 %

2.การออกกำลังกาย คือตัวช่วยเบิร์นสุดเวิร์ค

อย่างที่รู้กันว่าการออกกำลังกายเป็นวิธีที่จะทำให้เผาผลาญแคลอรี่ เบิร์นไขมันส่วนเกินออกไปได้ แต่วิธีของการออกกำลังกายก็ส่งผลอยู่เหมือนกัน วันนี้บุ๊คเลยจะมาแนะนำวิธีออกกำลังกายที่เร่งการเผาผลาญทั้งสองแบบ ได้แก่

    2.1 เร่งการเผาผลาญระยะสั้น เน้นการออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูงสลับเบา หรือที่เรียกว่า High Intensity Interval Training หรือ HIIT เพราะวิธีนี้จะช่วยให้คุณเผาผลาญไขมันได้มากในเวลาอันสั้น  ซึ่งการ HIIT ทำได้กับกีฬาหลากหลายประเภท

ตัวอย่าง: การวิ่งแบบ HIIT 1:1 คือ การวิ่งหนักแบบเร็วที่สุด จนพูดไม่ได้เป็นประโยค จำนวน 1 นาที สลับกับวิ่งจ๊อกกิ้งความเร็วชิลล์ๆ ที่สามารถพูดได้เป็นประโยค อีก 1 นาที


ตัวอย่าง: การออกกำลังกายด้วยท่าต่างๆ แล้วกำหนดเวลาออก-เวลาพักให้เท่าๆ กัน ก็ถือเป็น HIIT เช่นกัน ตัวอย่างคลิป >> www.youtube.com/watch?v=zyrHiWv3wUI



 2.2 เร่งการเผาผลาญระยะยาว ควรเน้นเวทเทรนนิ่ง เพราะจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มีมากขึ้น เมื่อมีกล้ามเนื้อมากขึ้น ก็เปรียบเสมือนมีเตาเผาขนาดใหญ่ เวลาเรากินอาหารเข้าไป ร่างกายก็จะนำไปเผาผลาญได้อย่างหมดสิ้นไม่เหลือสะสมเก็บเป็นไขมัน จำไว้ว่า ยิ่งมีกล้ามเนื้อมาก ยิ่งกินได้เยอะขี้น

ตัวอย่างคลิปเวทเทรนนิ่ง www.youtube.com/watch?v=sa0bPZqfCkc

ซึ่งการออกกำลังกายอย่างการวิ่ง กระโดดเชือก หรือเล่นเวทเทรนนิ่งที่ต้องใช้เวลานานๆ บางครั้งก็อาจทำให้รู้สึกเบื่อ ซึ่งวิธีแก้เบื่อของบุ๊ค คือ เสียงเพลงค่ะ มีงานวิจัยมากมายที่สรุปผลได้ว่า เสียงดนตรี มีส่วนกระตุ้นให้ร่างกายสูบฉีดสารความสุขเพิ่มมากขึ้น ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น และแถมยังช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อได้อีกด้วยน้า


แต่การฟังเพลงระหว่างออกกำลังกาย ก็ควรเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมด้วย ไม่ควรใช้โทรศัพท์เสียบกับหูฟังแบบมีสายปกติ เพราะนอกจากจะทำให้การออกกำลังกายของเราสะดุด ไม่คล่องตัวแล้ว เหงื่อของเราก็ยังทำให้อุปกรณ์ของเราพังอีกด้วย ดังนั้น ควรเลือกหูฟังไร้สาย ป้องกันเหงื่อ ขนาดกระทัดรัด และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกหูฟังแบบที่มี MP3 ในตัว โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ

 3.ดื่มน้ำเปล่าอย่างสม่ำเสมอ

การดื่มน้ำสำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติแล้ว น้ำยังช่วยให้ตับและไตทำงานได้อย่างราบรื่น เมื่อตับทำงานดี ก็จะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายให้เกิดเป็นพลังงาน และนำออกไปใช้หมดไม่เหลือเก็บตามร่างกาย นอกจากนี้ น้ำยังช่วยลดอาการท้องผูก ตัวบวมได้อีกด้วย


 4.มี Cheat Meal กินตามใจสักมื้อ

การกินอาหารสุขภาพที่มีไขมันน้อย แคลอรี่ต่ำเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อทำไปนานวันเข้า จะทำให้ร่างกายและตัวเราเองเครียด และยังส่งผลให้ระบบเผาผลาญยิ่งต่ำลงอีกด้วย ดังนั้น เราควรมี Cheat Meal 2-4 มื้อต่อสัปดาห์ ที่สามารถกินอาหารแคลอรี่สูงที่ชอบได้ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจไม่เครียด แถมยังช่วยบูทระบบการเผาผลาญของร่างกายให้สูงขึ้นด้วย

 



ความคิดเห็น